วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หมวด ๒
การ
ควบคุมและการบริหาร
ส่วนที่ ๑
การควบคุม
 มาตรา ๑๔  ให้มีสภาทหารผ่านศึก  ประกอบด้วยรัฐมนตรีเป็นนายก
 ผู้อำนวยการเป็นอุปนายก รองผู้อำนวยการเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการ
 ซึ่งเป็นรัฐมนตรีแต่งตั้งด้วยความเห็นชอบของสภากลาโหม คือจากทหารผ่านศึก
 ประจำการเจ็ดคน และทหารผ่านศึกนอกประจำการเก้าคน
             ให้เลขานุการ อผศ. เป็นเลขาธิการสภาทหารผ่านศึกโดยตำแหน่ง
             มาตรา ๑๕ กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งสองปี
             ในวาระเริ่มแรก เมื่อครบกำหนดหนึ่งปี ให้กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งประเภท
 ทหารผ่านศึกประจำการพ้นจากตำแหน่งสามคน   และประเภททหารผ่านศึก
 นอกประจำการพ้นจากตำแหน่งสี่คน ทั้งนี้โดยวิธีจับสลากการพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
 ให้ถือว่าเป็นการออกตามวาระ
              ถ้าตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่น นอกจากถึงวาระ ให้แต่งตั้งบุคคล
 ในประเภทเดียวกันเป็นกรรมการแทนเท่าวาระของกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง
              มาตรา ๑๖  ให้คณะกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระคงมีอำนาจและ
 หน้าที่ดำเนินการในตำแหน่งต่อไปจนกว่ากรรมการที่ได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
              กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ไม่เกินหนึ่งครั้ง
 ติดต่อกัน
              มาตรา ๑๗ กรรมการย่อมพ้นจากตำแหน่งก่อนถึงวาระ โดย
              (๑) ลาออก
              (๒) รัฐมนตรีให้ออกโดยความเห็นชอบของสภากลาโหม
              (๓) กรรมการ ประเภททหารผ่านศึกประจำการหรือกรรมการประเภท
 ทหารผ่านศึกนอกประจำการพ้นจากการเป็นทหารผ่านศึกประเภทดังกล่าว
              มาตรา ๑๘ ให้สภาทหารผ่านศึกมีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุม
 กิจการทั่วไปของ อผศ. และให้มีอำนาจ
              (๑) กำหนดข้อบังคับตามมาตรา ๑๑
              (๒) กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานและดำเนินกิจการ
              (๓) กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สิน และการบัญชี รวมทั้ง
 การสอบบัญชีและการตรวจ
              (๔) กำหนดข้อบังคับว่าด้วยบำเหน็จและเงินสะสมของพนักงาน
              (๕) กำหนดข้อบังคับว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์ เงินสมทบกองทุนสงเคราะห์
 หรือการสงเคราะห์อื่น ๆ เพื่อสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานและครอบครัว ซึ่งเมื่อได้รับ
 ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วให้ใช้บังคับได้
              (๖) พิจารณาให้ความเห็นชอบงบประมาณรายจ่าย
              (๗) ตั้งอนุกรรมการ เพื่อกระทำการใด ๆ ตามที่มอบหมาย
              ข้อบังคับสภาทหารผ่านศึกนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้
 บังคับได้
              มาตรา ๑๙ ให้มีการประชุมสามัญสภาทหารผ่านศึกอย่างน้อยทุกระยะเวลา
 สามเดือน
              ให้มีการเรียกประชุมวิสามัญสภาทหารผ่านศึกเมื่อนายกสภาทหารผ่านศึก
 เห็นสมควร หรือเมื่อกรรมการตั้งแต่สามคนขึ้นไปร้องขอ
              สภาทหารผ่านศึกจะเชิญบุคคลใดมาให้ข้อเท็จจริง คำอธิบาย คำแนะนำ
 หรือความเห็นก็ให้กระทำได้
              มาตรา ๒๐ การประชุมทุกคราวต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าเก้าคน
 โดยมีกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งไม่น้อยกว่าประเภทละสามคนมาประชุม จึงเป็น
 องค์ประชุม
              มาตรา ๒๑ ให้นายกสภาทหารผ่านศึกเป็นประธานในที่ประชุม ถ้านายกสภา
 ทหารผ่านศึกไม่มาประชุม ให้อุปนายกสภาทหารผ่านศึกเป็นประธาน ถ้าอุปนายก
 สภาทหารผ่านศึกก็ไม่มาประชุมให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธาน
 ในที่ประชุม
              มาตรา ๒๒ มติของที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียง
 เท่ากัน ประธานที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
              มาตรา ๒๓ มติของสภาทหารผ่านศึกในกรณีที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีนั้น
 ให้รัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น